Jul 24, 20212 min read

มาสคอต ประจำงาน Olympic ครั้งต่างๆ มีตัวอะไรบ้าง Part 1

Updated: Jul 26, 2021

#mascoteers #kyodo l คาแรกเตอร์ x ญี่ปุ่น

ในที่สุด Olympic Tokyo 2020 ก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว หลังจากเจอเลื่อนมาถึง1ปีเต็ม

ในการจัดโอลิมปิกนั้น มีทั้ง โอลิมปิกฤดูร้อน และ โอลิมปิกฤดูหนาว ซึ่งชนิดของกีฬาที่จัดแข่งก็จะแตกต่างกันออกไป เจ้าภาพก็จะแตกต่างกันด้วย

โดยสิ่งหนึ่งที่มีคู่กับการจัด โอลิมปิก มาตลอดก็คงไม่พ้น mascot หรือ ตัวละครสัญลักษณ์ของโอลิมปิกครั้งนั้นๆ

ซึ่งแน่นนอนว่าทุกครั้งที่มีการจัดโอลิมปิกขึ้น ทางเจ้าภาพก็จะมีการออกแบบมาสคอตขึ้นมาเพื่อใช้ในงานในครั้งนั้น

ซึ่งหลายๆครั้งจะมีมาสคอตแยกระหว่าง โอลิมปิก และ พาราลิมปิด แต่ในที่นี้เราจะนำมาให้ดูเฉพาะของ โอลิมปิกเท่านั้นก่อนน้า

มา เราจะพาไปย้อนดูมาสคอตประจำ Olympic ในแต่ละครั้งกัน โดยเรียบลำดับจากล่าสุดไปยุคแรกเริ่ม

เนื่องจากเนื้อหาค่อนข้างเยอะ จึงขอแบ่งเป็น 3 พาร์ท ด้วยกัน

Part 1 : https://bit.ly/3rySQ88

Part 2 :

Part 3 :

TOKYO 2020

Name : MIRAITOWA และ SOMEITY

Country : JAPAN

สรุปโดยย่อ : ผู้ออกแบบคือ ศิลปินชาวญี่ปุ่น คุณ Ryo Taniguchi

ตัวมาสคอต miraitowa นั้นได้รับแรงบรรดาลใจมาจากโลโกของงานในครั้งนี้ ซึ่งมีรูปร่างคล้ายตารางหมากรุก และ someity นั้นมาจากดอกซากุระ ดอกไม้ประจำชาตินั่นเอง

และแน่นอนว่าชื่อก็ต้องมีความหมายด้วย

miraitowa = มาจากคำว่า mirai(อนาคต)+towa(นิรันดร) ในภาษาญี่ปุ่น แดงให้ถึงอนาคตที่เต็มไปด้วยความหวังของคนทั้งโลกนั่นเอง

someity = มาจากชื่อพันธ์ของดอกซากุระชื่อ someiyoshino และยังไปตรงกำคำว่า ทรงพลัง, ความยิ่งใหญ่ ในภาษาอังกฤษอีกด้วย

แถมทั้งสองตัว ยังมีพลังพิเศษอีกด้วย โดยที่ miraitowa มีพลังที่จะสามารถเคลื่อนที่ไปไหนก็ได้ในทันที ส่วน someity นั้นสามารถคุยกับสิ่งไม่มีชีวิต เช่น ก้อนหิน สายลม ท้องฟ้าได้ด้วย และยังสามารถเคลื่อนย้ายวัตถุต่างๆได้ด้วยสายตาอีกด้วย

การออกแบบนั้นถูกส่งเข้ามาจากประชาชนทั่วไปจำนวน 2,042ผลงาน และถูกโหวตโดยนักเรียนประถมชาวญี่ปุ่นจาก 16,700 โรงเรียนทั้งในและนอกประเทศ ผลงานทั่วประเทศ โดยรอบไฟนอลนั้นได้ถูกคัดให้เหลือ 3 ผลงานตามด้านล่างนี้เลย

โดยแต่เดิมทางญี่ปุ่นคาดหวังว่าจะใช้มาสคอตสองตัวนี้ช่วยหารายได้ทั้ง การทำสินค้าออกจำหน่าย และขายไลเซนส์ แต่เมื่อเจอสถานการณ์โควิทเข้าไป ก็คงเจ็บตัวกันไม่มากก็น้อย

PYEONGCHANG 2018

Name : SOOHORANG

Country : SOUTH KOREA

สรุปโดยย่อ : ออกแบบโดยนำไอเดียมาจาก เสือขาว โดย เสือขาวนี้ มีความเชื่อว่าเป็นสัตว์ที่คอยปกป้องประเทศเกาหลีมาอย่างยาวนาน

โดยคำว่า SOOHO ในชื่อ มีความหมายว่า ปกป้อง ในภาษาเกาหลีนั่นเอง และคำว่า RANG ในชื่อนั่นก็ถูกตัดมาจากคำว่า Ho RANG I ซึ่งแปลว่าเสือ ในภาษาเกาหลีนั่นเอง และ ยังเป็นคำสุดท้ายของคำว่า Jeong Seion A Ri RANG ชื่อเพลงพื้นบ้านของจังหวัด GANGWON สถานที่จัดการแข่งขันอีกด้วย

RIO 2016

Name : VINICIUS

Country : BRAZIL

สรุปโดยย่อ : ชื่อนี้ได้นำมาจากชื่อของกวีชื่อดังขาวบราซิลนามว่า VINICIUS de Moraes

โดยรูปร่างของมาสคอตนี้ได้ถูกผสมระหว่างสัตว์ต่างๆในบราซิล และยังได้แรงบัลดาลใจจาก pop culture และตัวละครในวีดีโอเกมอีกด้วย (ต้นฉบับก็ไม่ได้บอกว่าเป็นเกมอะไร)

และมาสคอตนี้ยังได้สื่อถึงความหลากหลายของคน, วัฒนธรรม และธรรมชาติ ในบราซิลอีกด้วย

SOCHI 2014

Name : THE HARE, THE POLAR BEAR, THE LEOPARD

Country : RUSSIA

สรุปโดยย่อ : มีมาสคอตประจำโอลิมปิกครั้งนี้ถึง 3 ตัว ด้วยกัน โดยผู้ที่เป็นคนออกแบบก็คือ คุณ Silviya Petrova (ออกแบบ Hare), คุณ Oleg Seredechniy (ออกแบบ Polar Bear) และคุณ Vadim Pak (ออกแบบ Leopard)

มาสคอตทั้งสามนี้ถูกเลือกมาจากการประกวดทั่วประเทศรัสเซีย จากทั้งหมด 24,048 ผลงาน

โดยการเลือกนั้นกรรมการจะคัดให้เหลือ 10 ผลงานแล้ว เปิดให้ประชาชนทั่วไปลงคะแนนผ่านรายการทีวีนั่นเอง

LONDON 2012

Name : WENLOCK

Country : ENGLAND

สรุปโดยย่อ : ออกแบบโดยบริษัท Iris design agency ซึ่งชื่อของมาสคอตได้นำมาจากเมืองชื่อ Munch Wenlock ในเขต Shropshire ของประเทศอังกฤษ ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของสมาคมโอลิมปิกเวนล็อกและเป็นสถานที่จัดการแข่งขันโอลิมปิกครั้งแรกในปีพ.ศ.2393 ซึ่งถือเป็นจุดกำเนิดของการแข่งขันโอลิมปิกสมัยใหม่ โดยตัวมาสคิตนั้น มีกำไลข้อมือ 5 อันสื่อถึงสีประจำโอลิมปิกทั้ง 5 สี บนหัวได้ไอเดียมาจากแท็กซี่ในกรุงลอนดอนซึ่งมีรูปล่าง แตกต่างจากที่อื่นๆ และตรงตานั้นเปรียบเสมือนเลนส์ของกล้องถ่ายรูป ที่จะสามารถบันทึกเหตุการณ์ต่างๆที่ได้พบเจออีกด้วย และสุดท้าย ขีด3ขีดบนหัว แสดงถึง เหรียญ ทอง เงิน และทองแดง ในการแข่งขันนั่นเอง

VANCOUVER 2020

Name : QUANTCHI and MIGA

Country : CANADA

สรุปโดยย่อ : ออกแบบโดยได้ไอเดียจากสัตว์ท้องถิ่นในฝั่งตะวันตกของแคนนาดา

โดยที่ quantchi ได้ไอเดียจากตัว บิ๊กฟุต สัตว์ประจำท้องถิ่นลึกลับที่เชื่อกันว่าอาศัยอยู่ในป่า รูปร่างคล้ายมนุษย์ แต่มีขนดก และใส่รองเท้าบู๊ท

ส่วน miga ก็คือ หมีทะเล สัตว์ลึกลับอีกตัวที่อาศัยอยู่ในแถบ british columbia

ซึ่งจริงๆ แล้วยังมีคาแรกเตอร์อีกตัวที่ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเพื่อนกับ quantchi และ miga ซึ่งมีชื่อว่า MUKMUK ซึ่งตัวนี้กลับได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงกว่าตัวอื่น แม้จะไม่ใช่ official mascot ก็ตาม

โดย mukmuk ได้นำไอเดียมาจากสัตว์ชื่อ marmot ที่อาศัยอยู่ใน เกาะหนึ่งใน Vancouver

BEIJING 2008

Name : BEIBEI, JINGJING, HUANHUAN, YINGYING, NINI

Country : CHINA

สรุปโดยย่อ : ชื่อของมาสคอตแต่ละตัวเกิดจากการซ้ำคำของตัวอักษรในภาษาจีน โดยเมื่อเอาชื่อหน้าของทั้ง 5ตัว มาเรียงกันจะได้คำว่า Bei Jing Huan Ying Nin หรือ แปลว่า welcome to beijing นั่นเอง

สีของทั้ง 5ตัวละครนั้น จะไม่ซ้ำกัน โดยมีไอเดียมาจาก ธาตุต่างๆ ในธรรมชาติ และยังเป็นตัวแทนของแต่ละสีในห่วงทั้ง 5 ห่วงของโอลิมปิกอีกด้วย

โดยแต่ละตัวนั้น ยังมีความหมายซ่อนเร้นแตกต่างกันดังนี้

Beibei = ปลา แทนธาตุน้ำ

Jingjing = แพนดา แทนป่า

Huanhuan = เด็กๆ แทนธาตุไฟ สื่อถึงไฟของโอลิมปิก

Yingying = ละมั่ง แทนโลก

Nini = นกนางแอ่น แทนท้องฟ้า

TURIN 2006

Name : NEVE and GLIZ

Country : ITALY

สรุปโดยย่อ : ในภาษาอิตาลี คำว่า neve แปลว่า หิมะ และ gliz มาจากคำว่า ghiaccio แปลว่าน้ำแข็งผู้ออกแบบคือ Pedro Albuquerque

โดยที่ neve นั่นผู้ออกแบบได้ไอเดียมาจาก ก้อนหิมะ นั่นเอง และ gliz ก็คือ ก้อนน้ำแข็ง แสดงถึงกีฬาในฤดูหนาว เนื่องจากโอลิมปิกครั้งนี้เป็นโอลิมปิก ฤดูหนาวนั่นเอง

การออกแบบมาสคอตครั้งนี้ได้ดำเนินการตั้งแต่ 3ปีก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มขึ้น โดยเปิดให้ผู้คนได้ส่งเข้าประกวด และในท้ายที่สุด 5 ผลงานได้ถูกเลือกมาจากทั้งหมด 237 ชิ้นงาน

ATHENS 2004

Name : PHEVOS and ATHENA

Country : GREECE

สรุปโดยย่อ : เมื่อถูกจัดขึ้นที่เมืองที่เป็นจุดเริ่มต้น มาสคอตก็คงไม่พ้นเรื่องเกี่ยวกับตำนวนของเมืองนี้ โดยมาสคอตทั้งสองนั้นได้ไอเดียมาจาก เทพ2องค์คือ Phevos ได้ไอเดียมาจาก เทพ Apollo เทพแห่งแสงและเสียงเพลง และ Athena ได้ไอเดียมาจาก เทพ Athena เทพแห่งสติปัญญา และเป็นผู้คอยปกป้องเมืองเอเธนแห่งนี้ โดยทั้งสองมาสคอตได้ถูกตีความใหม่ให้มีความโมเดิร์นและเข้ากับยุคปัจจุบัน

และมาสคอตทั้งสองตัวนี้เป็นพี่น้องกันอีกด้วย