top of page
Search
Writer's pictureK

มาสคอตมาอยู่ในร้านขาย”ซาลาเปา”ได้อย่างไร, กว่าจะมาเป็นน้องฟีว์ “ฟีนิกซ์ลาวา”!

Updated: Jun 19, 2021

#mascoteers #kyodo l คาแรกเตอร์ x ญี่ปุ่น

หลายๆคนเกิดคำถามว่าทำไมร้านขายขนม ร้านคาเฟ่ ต้องมีคาแรกเตอร์ !!

คาแรกเตอร์มาช่วยร้านอาหาร หรือร้านคาเฟ่ได้อย่างไร !!

ผู้เขียนจะพาไปดูความสำเร็จจากสร้างและนำคาแรกเตอร์มาใช้อย่างเต็มรูปแบบให้ร้านซาลาเปา ร้าน“ฟีนิกซ์ลาวา”

วันนี้ผู้เขียนรู้สึกตื่นเต้น ดีใจ และมีความประหม่าอยู่เล็กๆ สาเหตุเพราะผู้เขียนได้มโอกาสที่จะทำความรู้จักกับมาสคอตที่มีเอกลักษณ์และความน่าสนใจ อย่างน้อง “ฟีว์” จากแบรนด์ “ฟีนิกซ์ลาวา”

ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของผู้เขียนที่จะได้สัมภาษณ์ เจ้าของแบรนด์ และ ผู้ออกแบบคาแรคเตอร์ เพื่อที่จะได้รู้ถึงประวัติความเป็นมาของมาสคอตไทยแท้อย่างน้องฟีว์แบบเจาะลึกกันเลยค่ะ


ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ก่อนการระบาดของโควิด ช่วงนั้นผู้เขียนพยายามตามหามาสคอตไทย เพื่อถ่ายรูปและหาข้อมูลมาลงเพจ แต่หายากมากๆ เลย ที่จะมีมาสคอตไทยมาออกตามงานอีเวนท์ต่างๆ ยิ่งมาสคอตไทยที่มีพร้อมทั้งตัวสินค้าของแบรนด์ และของตัวมาสคอตเอง มาวางขายควบคู่กันไปด้วย


แต่แล้วผู้เขียนก็ได้เจอ “น้องฟีว์” ในงานอีเวนท์ๆนึง ที่จัดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าพารากอน น้องมาสคอตตัวกลมๆขาวๆ นั่งขยับปีกไปมาที่หน้าร้านซาลาเปาร้านนึง ตอนนั้นยอมรับตรงๆว่า ไม่รู้จักร้านซาลาเปานี้เลยค่ะ แถมยังแอบเรียกน้องว่า “น้องซาลาเปาไก่” แต่สุดท้ายก็เลือกเดินเข้าไปหาเพราะปิ๊งแรกคือ ต้าวอ้วนกลมนั้นแหละค่ะ จากการสอบถามกับสตาฟตรงนั้น ได้ความว่า ต้าวอ้วนมาสคอตชื่อ น้องฟีว์ เป็นมาสคอตของร้าน ซาลาเปาลาวา ชื่อร้านว่า “ฟีนิกซ์ลาวา” และยิ่งตอนที่เห็นสินค้าต่างๆ ก็ยิ่งประทับใจมากๆค่ะ เพราะมีหน้าตาของมาสคอต อยู่บนซาลาเปาทุกลูก น่ารักมากกกก และยังมีสินค้าต่างๆ เช่น กระดาษโน้ต สมุด ตุ๊กตา ลายน้องมาสคอตอีกด้วย ซึ่งในไทยเราจะหาร้านค้าที่ใช้มาสคอตเป็นจุดขายแบบเต็มรูปแบบอย่างนี้ยากมากๆเลยค่ะ

จากวันนั้นก็ผ่านมาหลายปี จนไม่คิดว่าวันนึง ผู้เขียนจะได้มีโอกาสได้มาพูดคุย กับ คุณปริญญ์” เจ้าของแบรนด์ร้าน “ฟีนิกซ์ลาวา” และ “คุณเอ็ม” ผู้ออกแบบคาแรคเตอร์ “น้องฟีว์” ......

เกริ่นมาก็ยาวมากแล้ว เรามาทำความรู้จักมาสคอตไทยแท้อย่าง “น้องฟีว์” กันเลยค่ะ ตามที่ผู้เขียนได้ฟังเรื่องราวจุดกำเนิดของ “น้องฟีว์” ทำให้รู้ว่า กว่าจะมาเป็นน้องฟีว์ได้นั้น ผ่านกระบวนการคิดการออกแบบมาเป็นร้อยๆแบบ

เริ่มจากการที่คุณปริญญ์ ได้ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น แล้วได้เห็นไก่ฟ้าเป็นไอค่อนที่อยู่บนพื้นกระเบื้อง จึงได้ขอให้คุณเอ็มช่วยออกแบบคาแรคเตอร์ของแบรนด์ โดยมีโจทย์เป็นสัตว์จำพวกนก และในครั้งแรก ได้วางสีของตัวคาแรคเตอร์ไว้เป็นสีเหลือง เพราะคุณปริญญ์ชื่นชอบ เจ้าChocobo ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตในเกม ไฟนอลแฟนตาซี ลักษณะเป็นนกสีเหลืองขนาดใหญ่ที่บินไม่ได้ พูดมาถึงตรงนี้ ผู้เขียนก็ร้องอ๋อออ! ขึ้นมาทันที เพราะเจ้าChocobo นั้นน่ารักมากจริงๆ

( รูปร่างหน้าตาของน้องฟีว์ในเวอร์ชั่นแรกๆค่ะ )


บวกกับตอนนั้น คุณปริญญ์ ได้ตั้งชื่อแบรนด์ไว้แล้วว่า “ฟีนิกซ์” เพราะอยากจะถือกำเนินซาลาเปาขึ้นมาใหม่ ให้มีรูปแบบที่สดใส น่ารัก ทันสมัย ไม่จำเจเหมือนสัญลักษณ์ของซาลาเปาในแบบเดิมๆ ที่ผ่านมา นั่นคือโจทย์แรกๆที่คุณปริญญ์ ได้ให้ไว้กับคุณเอ็ม


มาถึงตอนนี้ทำให้ผู้เขียนรู้สึกสงสัย จึงถามคุณปริญญ์ว่า คิดอย่างไรถึงมีความกล้าที่จะใช้คาแรคเตอร์ในการทำแบรนด์สินค้า เพราะพูดกันตามตรง การสร้างคาแรคเตอร์สินค้าในไทยนั้น ถือว่ายังไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก และส่วนมาก สินค้าแบรนด์ดังๆมักจะซื้อ License คาแรคเตอร์จากต่างชาติที่ดังแล้วเพื่อมาโปรโมทสินค้า คุณปริญญ์ตอบแบบทันทีว่า


“อาจเป็นเพราะ ได้รับอิทธิพลจากการ์ตูนญี่ปุ่นมาตั้งแต่เด็กๆ และคิดว่าเป็นการแสดงออกที่เข้าใจง่าย ในตอนที่คิดจะทำร้านซาลาเปา เลยอยากได้มาสคอตคาแรคเตอร์สักตัว ที่สามารถสื่อออกมาในสิ่งที่เราทำมันก็น่าจะดี รวมทั้งได้สังเกตว่า ส่วนมากร้านซาลาเปาในแถบเอเชีย มักจะเป็นโลโก้ตัวอักษรจีนสีแดงๆสะเป็นส่วนใหญ่ เลยอยากได้มาสคอตคาแรคเตอ์เพื่อสร้างจุดเด่น และจุดต่างจากร้านซาลาเปาทั่วๆไป โดยหลักๆคืออยากให้คนได้มองคาแรคเตอร์แล้วเกิดความรู้สึกสบายใจ นี่คือคีย์สำคัญ”

คุณเอ็มบอกว่า ตอนที่ได้โจทย์ก็วาดคาแรคเตอร์ออกมาหลากหลายแบบมากๆ การทำงานออกแบบครั้งนี้ ถือว่าเป็นการทำงานครั้งแรกในฐานะนักออกแบบคาแรคเตอร์ให้กับแบรนด์สินค้าด้วย คุณเอ็มเลยทุ่มเทอย่างมากให้กับผลงานในครั้งนี้

ด้วยความที่ผู้เขียนสนใจว่า เอ.. แล้วผลสรุปมาจบที่น้องฟีว์ได้อย่างไร ทันที่ที่คิดเสร็จ กำลังจะเอ่ยถามออกไป คุณเอ็มก็เล่าเพิ่มเติมว่า

ในตอนนั้นคุณปริญญ์และน้องชายได้ทำโปรดักส์ซาลาเปาขึ้นมาพอดี น้องชายของคุณปริญญ์เลยแอบเอาหน้าตาคาแรคเตอร์ ที่ผมออกแบบ ไปวางไว้บนซาลาเปาเพื่อจะลองดูว่าหน้าตาจะออกมาเป็นยังไง พอผมเห็นก็รู้สึกว่า เราจะทำซาลาปาขายอยู่แล้วก็เลยเอาซาลาเปามาเป็นบอดี้หลักของการออกแบบเลยครับ ซึ่งตอนแรกเราออกแบบให้คาแรคเตอร์มีหัวมีตัวอ้วนๆ พอได้เห็นมุมที่เอาหน้าตาคาแรคเตอร์ไปอยู่บนซาลาเปา ก็ทำให้เปลี่ยนมุมมองใหม่ว่าเราหยิบสินค้ามาออกแบบเป็นคาแรคเตอร์เลยก็ได้ครับ จากตอนแรกที่โจทย์เป็นนกสีเหลือง เลยเปลี่ยนเป็นสีขาว สีของตัวซาลาเปาเลยครับ”


ส่วนจุดเด่นของน้องฟีว์ คุณเอ็มเล่าให้ฟังว่า

“จริงๆแล้ว ผมบนหัวของน้องฟีว์ที่มีสามหยัก ได้แรงบันดาลใจมาจากการจับจีบของซาลาเปา ในตอนแรกก็คือวาดให้เหมือนการจับจีบของซาลาเปาแบบจริงๆ แต่ในตอนนี้ตัวโปรดักซ์ซาลาเปาของทางร้าน ไม่ได้มีจีบอยู่ด้านบน เพราะจุดขายของซาลาเปาที่ร้าน คือซาลาเปาลาวา ซึ่งเทคนิคการทำซาลาเปาลาวาต้องเก็บจีบซาลาเปาให้อยู่ข้างใต้ ถ้ารอยจับจีบอยู่ด้านบนเวลานึ่งอาจจจะทำให้ซาลาเปาแตกได้ ซึ่งก็แอบเสียดายนิดๆที่น้องฟีว์กับตัวซาลาเปาไม่ได้มีจีบบนหัวเหมือนกัน”

จากที่ได้ฟังจุดกำเนิดน้องฟีว์ ทำให้ผู้เขียนยิ่งรู้สึกถึงรายละเอียดและความตั้งใจในการออกแบบ เลยทำให้สนใจและอยากรู้จักคาแรคเตอร์น้องฟีว์มากขึ้นๆ จากนั้น คุณเอ็มก็ได้เล่าถึงบุคลิกคาแรคเตอร์ของน้องฟีว์ว่า

“ในตอนแรกๆเราวางคาแรคเตอร์ของน้องฟีว์เป็นบุคลิกเงียบๆ รักสงบ ใจดี เป็นกันเองกับเพื่อนๆที่สนิท ในตอนที่ใช้น้องฟีว์เป็นโลโก้ร้าน และทำเพจร้าน ก็ได้ใช้คาแรคเตอร์น้องฟีว์ในการคุยกับลูกค้า ตอนนั้นก็วางแผนกันว่าจะแทนตัวเขาว่าอะไรดี ชื่ออะไรดี จนมาสรุปกันที่ชื่อน้องฟีว์ครับ”

“ในช่วงแรกที่วางคาแรคเตอร์ก็มีความเคอะๆเขินๆ ว่าน้องฟีว์จะพูดครับหรือค่ะดี แต่สรุปแล้วก็เลือกในน้องฟีว์เป็นเด็กผู้ชาย ซึ่งเราก็ยึดวันเกิดของน้องฟีว์ ให้เป็นวันเดียวกันกับวันเปิดร้าน ในวันที่ 1 ก.ค ไปด้วยเลยครับ ซึ่งปีนี้ ร้านก็ก้าวสู่ปี่ที่6แล้ว น้องฟีว์ก็เหมือนเด็กผู้ชายที่กำลังเรียนรู้โลกที่ค่อยๆเติบโตไปพร้อมๆกับร้านฟีนิกซ์ลาวาครับ”

แล้วข้อดีข้อเสียของการใช้มาสคอตคาแรคเตอร์เป็นตัวโปรโมทสินค้าล่ะ คุณเอ็มมีความคิดเห็นว่าอย่างไร?

“ข้อดีเอ็มคิดว่า คือการที่ทำให้ลูกค้าจดจำสินค้าของเราได้ แต่ข้อเสียก็มีบ้าง เช่น อาจจะทำให้สินค้าดูเด็กเกินไป หรือเคยมีคนมาทักว่าน้องฟีว์ของเราคล้ายกับมาสคอตนกแอร์ เป็นอะไรกับนกแอร์ครับ เป็นแบรนด์ลูกของนกแอร์หรือเปล่า”

จะเห็นได้ว่าการจะสร้างคาแรคเตอ์ในไทยไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยนะคะ ผู้เขียนเลยถามต่อว่า ในอนาคตอยากผลักดันน้องฟีว์ให้ไปในทิศทางไหน?

“จริงๆแล้ววางแผนไว้ว่าอยากสร้างให้เป็นอาณาจักรน้องฟีว์ ฟีนิกซ์ลาวา ให้เหมือนกับที่เคยไปเที่ยวนิชชินมิวเซียม ที่จะมีโซนสาธิตการผลิตสินค้า โซนของฝาก โซนมาสคอต ที่ผ่านมาน้องฟีว์ก็เป็นเพียงแค่โลโก้ห้อยที่ร้านแต่ในอนาคต เราอาจจะใช้น้องฟีว์ในการทำมาร์เก็ตติ้ง เพื่อสร้างความแตกต่างและเป็นจุดเด่นให้กับแบรนด์ของเรา”

ฟังเรื่องราวจากทั้งคุณเอ็มและคุณปริญญ์มาพอสมควร ผู้เขียนได้มองเห็นถึงศักยภาพ ของผู้ออกแบบอย่างคุณเอ็ม และเจ้าของแบรนด์อย่างคุณปริญญ์ บวกกับน้องฟีว์ ที่เป็นมาสคอตคาแรคเตอร์ที่น่ารัก น่าสนใจ จดจำได้ง่าย ผู้เขียนเชื่อมั่นว่า น้องฟีว์ จะสามารถสร้างชื่อเสียง และประสบความสำเร็จทั้งในไทยและต่างประเทศได้อย่างแน่นอนค่ะ

และผู้เขียนมีความหวังว่า สักวันหนึ่ง วงการมาสคอตคาแรคเตอร์ในเมืองไทย จะเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงโด่งดังเฉกเช่นในประเทศญี่ปุ่น ที่ไม่ว่าจะมองไปมุมไหนก็จะพบเจอมาสคอตคาแรคเตอร์ได้แทบจะทุกพื้นที่

ส่วนใครอยากลองชิมขนมของร้าน Phoenix lava นี้ ก็ตามไปตำกันได้เลยที่ www.lavabun.com นะค่ะ


หรือใครอยากจะไปเยี่ยมเยียนร้านก็ตามไปตำกันได้เลย

Bangkok 1. The Sense - ปิ่นเกล้า 2. Chinatown Salaya ศาลายา 3. Cafe ถนนโพธิ์แก้วลาดพร้าว 101 4. Future Park รังสิต 5. La Villa อารีย์ 6. Silom Connect ช่องนนทรี 7. ปุณณวิถี Cafe (Open Feb 2021) 8. คู้บอน ปั้ม Caltex (Open Jan 2021) 9. Saima Avenue (Open Apr 2021) North-East Sakon NaKhon 1. ซอยรัฐพัฒนา 5 (ตรงข้ามกาแฟคำหอม) 2. รพ.กรุงเทพโคราช (Open Apr2021) International Macau 1. Macau大街 / 營地大街140號紅窗門大廈、澳門大街 / 營地大街140號 2. Macau大街 / 雅廉訪大馬路52號東方花園地下N座

ผู้เขียน


indigo_yui

แอดมินเพจ : My yuru คาแรคเตอร์ที่รัก




8 views0 comments

コメント


bottom of page